กบง. ขยายเวลาลดค่าก๊าซหุงต้ม – เอ็นจีวี ต่อไปอีก 3 เดือน

กบง. ขยายเวลาลดค่าก๊าซหุงต้ม – เอ็นจีวี ต่อไปอีก 3 เดือน

ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคที่ใช้ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนเลยทีเดียว เมื่อทางด้าน กรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติให้ ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน ลดราคาต่อไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน รวมไปถึง ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ เอ็นจีวี ด้วนเช่นกัน

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) 

มีมติต่ออายุมาตรการลดราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน ขนาดถัง 15 กก. ลง 45 บาทต่อถัง หรือ อยู่ที่ 318 บาทต่อถัง ต่อไปอีก 3 เดือน จากเดิมจะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 24 มิ.ย. นี้ ขยายไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2563 เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปอุดหนุน

นอกจากนี้ ยังขยายเวลาปรับลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ เอ็นจีวี ที่ใช้ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้ร่วม ขสมก. รถโดยสาร มินิบัส สองแถว รถโดยสารรถตู้ร่วม บขส.

ปรับลดจาก 13.62 บาท/กก. เหลือ 10.62 บาท/กก. จนถึงเดือน ก.ค. 2563 เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ และชลอการขึ้นค่าโดยสาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้อีกทาง

“อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นอย่างมาก ธอส. จึงได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.99% ต่อปี ถือเป็นการแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระของลูกค้าโดยตรง อาทิ กรณีกู้ 1 ล้านบาท จะผ่อนชำระ 2 ปีแรกเพียง 3,300 บาทต่อเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับวงเงินกู้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้มีบ้าน ธอส. จึงกำหนดสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) ในกรณีลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน โดยถือเป็นโครงการที่ครอบคลุมทั้งคนในครอบครัวของผู้ที่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่ปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนกว่า 15 ล้านรายและครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการช่วยเหลือจากปัญหาโควิด-19 มากกว่า 4 แสนรายจึงเชื่อว่าโครงการบ้าน ธอส. คนไทยไม่ทิ้งกัน จะสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

ขณะที่มาตรการด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของ ธอส. จะดำเนินการภายใต้แนวคิด“ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คือความห่วงใย” ด้วยการจัดทำ “โครงการบ้าน ธอส. ของกินของใช้  ปันน้ำใจเราไม่ทิ้งกัน” โดยมีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับชุมชน เสริมสร้างวัฒนธรรมแบ่งปันสุข คลายทุกข์ ให้คนไทยช่วยเหลือดูแลกันและกัน ด้วยการจัดทำ “บ้าน ธอส.” สำหรับใส่ของกินของใช้เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แบ่งปันไปใช้-บริโภค โดยจะตั้งไว้บริเวณหน้าที่ทำการสาขา ธอส. กว่า 200 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมิถุนายน 2563 และจะจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ชุมชนและเด็กนักเรียนใกล้เคียงสาขาได้มีส่วนร่วมกับโครงการต่อไป

ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้จัดทำ โครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” ด้วยการประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัย 1,000,000 ชิ้น โดยมีผู้บริหารธนาคาร ผู้ปฏิบัติงานของ ธอส.และหน่วยงานพันธมิตร ผู้สูงอายุหรือผู้พิการในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ธนาคารให้การสนับสนุนร่วมกันประดิษฐ์ ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2563 เพื่อส่งมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน เพื่อบรรเทาปัญหาการบาดเจ็บจากการถูกสายหน้ากากอนามัยกดทับเป็นเวลานานระหว่างใส่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ครม. ไฟเขียว! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แจกเงินเยียวยา 1 พันบาท 3 เดือน

วันนี้ (16 มิ.ย. 63) มีรายงานว่า นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการจ่ายเงินเยียวยาโควิด-19 ให้กับผู้ถือบัตรคนจน หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 1,000 บาท ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการใดๆ ของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด

คาดว่า ผู้ถือบัตรคนจน หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา มีจำนวนทั้งสิ้น 1,164,222 คน โดยจะได้รับเงินเดือนละ 1 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  3,000 บาท และจะได้รับเงินตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค. 63 โดยผู้มีสิทธิ์ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ ทั้งสิ้น รัฐบาลจะจ่ายเงินให้ในบัตรคนจนทันที

การประท้วงของชาวฮ่องกงที่อุบัติครึ่งใหม่ครั้งล่าสุด นับเป็นการประท้วงต่อเนื่องยาวนานเข้าสัปดาห์ที่ 11 จุดเริ่มต้นการประท้วงของชาวฮ่องกง เพื่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่จีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2562 ส่งผลให้ร่างดังกล่าวถูกระงับลงชั่วคราว แต่การชุมนุมยังคงดำเนินจนถึงปัจจุบัน

เมื่อกลางคืนของวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกง ณ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ที่ผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ส่งผลให้เที่ยวบินถูกยกเลิก จนต่อมาสนามบินฮ่องกงเผยแพร่คำสั่งศาลชั่วคราวที่ระบุว่า ผู้ชุมนุมประท้วงที่ก่อสิ่งกีดขวางหรือขัดขวางสนามบิน อาจถูกปรับหรือจำคุก คำสั่งศาลอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ใดก็ตามที่ “เชื่อได้ว่า” ละเมิดกฎ

“ผู้ประท้วงหัวรุนแรงของฮ่องกงใช้เครื่องมือที่อันตรายอย่างยิ่งในการโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการก่ออาชญากรรมอย่างรุนแรง แล้วยังแสดงสัญญาณเริ่มต้นของการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอีกด้วย” หยางกวง โฆษกสำนักงานฮ่องกงและมาเก๊ากล่าวระหว่างการแถลงการ ณ เมืองปักกิ่ง “นี่เป็นการเหยียบย่ำกฎหมายและระเบียบสังคมของฮ่องกงอย่างร้ายแรง”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป