ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กไว้อาลัย วิทยา บุรณศิริ ลั่นรู้สึกเป็นเกียรติที่เคยทำงานร่วมกัน พร้อมนึกย้อนถึงตอนร่วมลุยน้ำท่วม 54 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงการจากไปของ วิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถึง 3 สมัย นึกถึงย้อนไปถึงตอนช่วยกันแก้ปัญหาน้ำท่วม 54
น.ส. ยิ่งลักษณ์ แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ วิทยา บุรณศิริ
พร้อมระบุว่า “ดิฉันรู้สึกเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของท่านวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถึง 3 สมัย
ตอนดิฉันเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี 2554 ต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ท่านวิทยาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ลงพื้นที่ในจังหวัดอยุธยากันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ท่านได้ทุ่มเทดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยอัธยาศัยที่เป็นมิตร ติดดิน เปี่ยมไปด้วยน้ำใจและความจริงใจ
ท่านยังเป็นที่รักของรัฐมนตรีและส.ส.ทุกคน ที่เข้ามาสภาช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่ไหนที่ว่าอร่อยก็จะสรรหามาไว้รับรองดูแลโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้ท่านวิทยาได้รับความเคารพรักจากคนในแวดวงการเมืองเป็นอย่างมาก
และยังเป็นแรงสำคัญที่ช่วยกันกับดิฉันเรื่องโครงการ “เจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต ไม่ถามสิทธิ์ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น” สู่การปฏิบัติได้จริง ซึ่งเป็นรากฐานของ UCEP ในปัจจุบัน รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ให้ทำงานเชิงรุก มีส่วนสำคัญในการจัดการสุขภาพชุมชนอย่างเข้มแข็ง
ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักและทำงานร่วมกับท่านและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของท่านวิทยา บุรณศิริ ที่สูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก ทิ้งไว้แต่ความทรงจำและคุณงามความดีที่ท่านได้ทำไว้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ช่วยนำพาดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพค่ะ”
เขตช่องแคบ (The Channel Command) อยู่ภายใต้การดูแลของ Allied Commander in Chief Channel – CINCHAN) เขตการรับผิดชอบบริเวณช่องแคบอังกฤษ และทะเลเหนือตอนใต้ ทำหน้าที่คุ้มครองป้องกันเรือพาณิชย์ในเขตประสานงานกับ SACEUR ในการป้องกันภัยทางอากาศในเขตช่องแคบ CINCHAN มีกองกำลังเรือรบอยู่ภายใต้การควบคุมเรียกว่า Standing Naval Force Channel (STANAFORCHAN) มีกองบัญชาการอยู่ที่ Nortwood สหราชอาณาจักร
รัฐบาลเตือนระวัง ฝนตก 17-21 ก.ย. สั่งทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม
ยังไม่จบกับ ฝนตก หลังจากที่รัฐบาลออกมาเตือนว่าในช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. ฝนตกเพิ่มขึ้นและตกมากในบางพื้นที่ สั่งหน่วยเตรียมความพร้อม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 17 – 21 ก.ย. 65 และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนท่ีตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางนำ้ไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณท่ีมีฝนฟ้าคะนอง
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง แม่น้ำจันทบุรี และแม่น้ำตราด
รวมทั้งให้เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) 13 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา กิ่วลม และแม่มอก จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี อ่างเก็บน้ำกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง และมูลบน จังหวัดนครราชสีมา อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง รวมไปถึงอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุกด้าน ทั้งติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำ และบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะไหลหลากมายังบริเวณพื้นที่เสี่ยง
เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ตลอดจนเร่งประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป